เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดงาน Private Reception พร้อมเสวนาพิเศษ “2023 Investment Outlook : Locating Growth Opportunity” วิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนและเปิดมุมมองทิศทางการตลาดต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างความสำเร็จในการลงทุนให้กับลูกค้า Wealth Banking และผู้ถือบัตร ttb reserve พร้อมนำเสนอโซลูชันต่าง ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ลูกค้าสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารการลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่าแนวโน้มภาพรวมของเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว โดยประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกามีโอกาสเติบโตช้าในปีนี้ ในขณะที่อังกฤษเศรษฐกิจเริ่มหดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะเดียวกันภูมิภาคยุโรปก็มีการชะลอตัวเช่นเดียวกัน หากขยับมาดูที่ภูมิภาคเอเชียคาดว่าน่าจะสามารถเติบโตได้ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กำลังเปิดประเทศ ทำให้เศรษฐกิจจีนในปีนี้น่าจะขยายตัว ขณะที่ประเทศไทยเศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อน่าจะมีแนวโน้มลดลง

สำหรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจ และลงทุนในสหรัฐฯ และทวีปยุโรปอาจต้องมองหาตลาดเผื่อไว้ โดยในส่วนของตลาดเอเชียโดยรวมในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ในอัตราการเติบโตที่ 4-5 % ส่วนในปี 2567 คาดว่าอาจจะทรงตัว โดยภาวะเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบที่สามารถควบคุมได้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะค่อนข้างได้รับผลกระทบ เห็นได้ชัดจากประเทศเกาหลีใต้และไต้หวันที่กำลังประสบปัญหาด้านการผลิตอยู่ในขณะนี้  

จับตา 5 ความเสี่ยง ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาคธุรกิจและการลงทุน ได้แก่ 1. สงครามรัสเซีย-ยูเครน  2. ภาวะเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ และยุโรปที่ชะลอตัวกระทบทั่วโลก 3. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำมากสวนทางกับเงินเฟ้อสูง ทำให้การลงทุนและการบริโภคหยุดชะงัก 4. การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน 5. สหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้เนื่องจากไม่มีการเพิ่มเพดานเงินกู้จากรัฐสภา ส่งผลให้ตลาดเริ่มมีความกังวล 

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มั่นใจกับความผันผวนต่าง ๆ สามารถเลือกลงทุนในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เลือกลงทุนตราสารหนี้หรือกองทุนพันธบัตรรัฐบาลที่ระดับความน่าเชื่อถือสูงและได้ดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้น ควรเน้นเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ผลตอบแทนและคุ้มครองเงินต้นให้ด้วย 

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคล ทีทีบี กล่าวว่า สองโซลูชันของธนาคารที่จะเข้ามาช่วยรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและคุ้มครองเงินต้น เช่น ttb global index principal protect เป็นการลงทุนที่อยู่ภายใต้โครงสร้างประกันชีวิต ทำให้สามารถคุ้มครองเงินต้นและยังได้รับส่วนแบ่งผลตอบแทนจากการอ้างอิงกับผลประกอบการของ Index ที่เป็น global diversified asset allocation ที่บริหารโดย Eastspring Asset Management โดยไม่ว่าลูกค้าจะอายุมากหรือน้อยก็สามารถได้ประโยชน์ใกล้เคียงกันต่างจากประกันชีวิตทั่วไป โดยผลทดสอบผ่านแบบจำลองย้อนหลังแสดงให้เห็นผลประกอบการของ Index ที่ประมาณ 6% ต่อปี

นางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีทีบี กล่าวว่า ธนาคารมีการพัฒนาฟีเจอร์ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องทำธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งผู้ประกอบการสามารถโอนเงินผ่านสมาร์ทโฟนด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ สามารถทำธุรกรรมการโอนได้ตลอด 24 ชั่วโมง กว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยทำธุรกรรมโอนได้สูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อวัน รวมถึงบริการสกุลเงินหยวนดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการที่ทำการค้ากับประเทศจีน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจากความผันผวนของสกุลเงินดอลลาร์ หากเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัล ที่ทำให้การโอนเงินเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ทางธนาคารยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่บน สมาร์ทโฟนให้ลูกค้าสามารถโอนเงิน 6  สกุลเงิน(USD, EUR, GBP, AUD, HKD, SGD) ไปยัง 34 ประเทศ ได้รับเงินเต็มจำนวนและมีค่าธรรมเนียมเพียง150 บาท โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินไปต่างประเทศได้เองแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีบริการบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit : FCD) บัญชีเงินฝากดอลลาร์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินได้อีกด้วย

ทั้งนี้ นอกเหนือจากโซลูชันทางการเงินและการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันแล้ว ยังมีบัตรเครดิต ttb reserve ที่เป็นตัวช่วยผสานโซลูชันต่างๆ เพื่อต่อยอดด้านการเงิน การลงทุน ให้กับลูกค้ากลุ่ม Wealth Banking เพื่อต่อยอดความมั่งคั่งด้านต่าง ๆ ได้อีกด้วย อาทิ เมื่อรูดใช้จ่ายในต่างประเทศฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% รับคะแนนสะสมพิเศษรายปีสูงสุด 180,000 คะแนน แม้ไม่ได้ใช้จ่าย และรับคะแนนสะสม 10 เท่า เมื่อซื้อประกันชีวิต ซึ่งสามารถนำคะแนนมาแลกต่อยอดด้านการเงิน การลงทุน เช่น แลกเป็นเงินลงทุนในรูปแบบเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อกองทุน และยังแลกคะแนนเป็นส่วนลด 20% เมื่อซื้อประกันวินาศภัย เป็นต้น