“แรบบิท แคร์” ปิดดีล “อีซี่ คอมแพร์” ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัย ขยายส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์ ด้วยฐานลูกค้ากว่า 4 แสนราย มั่นใจดันรายได้ปิดปี 66 ตามเป้า

“แรบบิท แคร์” ปิดดีล “อีซี่ คอมแพร์” ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัย ขยายส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์ ด้วยฐานลูกค้ากว่า 4 แสนราย มั่นใจดันรายได้ปิดปี 66 ตามเป้า

        กรุงเทพฯ 26 กันยายน 2566 – “บริษัท แรบบิท แคร์ โบรคเกอร์  จำกัด” ผู้นำแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ประกันภัย (InsurTech) และผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน (FinTech) ออนไลน์ของประเทศไทยในเครือ BTS เดินหน้าขยายธุรกิจโบรกเกอร์ประกันรถยนต์ โดยเข้าซื้อธุรกิจโบรกเกอร์จากอีซี่ คอมแพร์ต้อนรับลูกค้า 3 หมื่นราย การเคลื่อนไหวนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) ให้ยังคงเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมมากที่สุด

      จากการโอนย้ายครั้งนี้ จะทำให้บริษัททำรายได้เติบโตตามเป้า 50% ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ นอกจากนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าเบี้ยประกันของทุกผลิตภัณฑ์จะเติบโตอยู่ที่ 4,500 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2566 มร.ไมเคิล มันเฟรด สไตลเบิล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการโอนย้ายธุรกิจในครั้งนี้ โดยเปิดเผยว่า ไม่เพียงแต่จะทำให้บริษัทได้รับฐานลูกค้า ที่แอคทีฟกว่า 30,000 ราย แต่จะทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจบริการไม่ต่ำกว่า 4 แสนราย ที่มีการเข้ามาลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มอีซี่ คอมแพร์ เพื่อรับข้อมูลคำปรึกษาและเปรียบเทียบโปรโมชั่นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อซึ่งจะช่วยเติมเต็มเป้าหมายเป็นบริษัทแนวหน้าที่สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลระดับเวิล์ดคลาสเพื่อคนไทยได้อย่างมีศักยภาพ

      เพื่อให้การรับโอนย้ายของลูกค้า อีซี่ คอมแพร์ เป็นไปตามพันธกิจของบริษัทอย่างราบรื่น แรบบิทแคร์ จึงได้แต่งตั้ง มร. โธมัส ไมเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ขึ้นควบดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในการวางแผนกลยุทธ์การจัดการการดำเนินงาน เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนา Customer Journey ให้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นครอบคลุมทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นจนได้รับกรมธรรม์

      มร. ไมเคิล กล่าวเสริมว่า เพื่อแสดงถึงความพร้อมในการดูแลลูกค้าทุกคน แรบบิท แคร์ เดินหน้าส่งมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อผ่านแนวคิด “Handle with Care” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะได้รับการดูแลและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด การันตีด้วยคะแนนความพึงพอใจจาก กูเกิลรีวิว(google review) 4.6 ดาว ซึ่งได้มาจากส่วนหนึ่งของฐานลูกค้าปัจจุบันจำนวนกว่า 4 ล้านคน

      ด้าน มร.ไซมอน นีล เบิร์ช กรรมการ บริษัท อีซี่ คอมแพร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯตระหนักถึงความสำคัญในการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จึงได้เลือก แรบบิท แคร์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ประกันวินาศภัยชั้นนำที่ได้การยอมรับในด้านประสบการณ์และความชำนาญในการจัดหาประกันที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้ามาเป็นผู้รับโอนกิจการ ซึ่งมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับบริการจัดหากรมธรรม์ประกันภัยที่เหมาะสมได้อย่างไร้รอยต่อ และจากการโอนย้ายกิจการในครั้งนี้ยังจะเป็นการตอกย้ำถึงพันธกิจของทั้งสององค์กร ที่มีเป้าหมายการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพระดับเวิลด์คลาส และมีบริการที่ สอดรับกับความต้องการของคนไทย

      “บริษัทมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่อีซี่คอมแพร์ได้รับการเข้าซื้อกิจการจากโบรกเกอร์ประกันภัยที่ยอดเยี่ยมอย่างแรบบิทแคร์ และในนามของกรรมการบริษัท - ผู้ถือหุ้น ยังต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทุ่มเทให้กับอีซี่คอมแพร์ในการสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งอีกด้วย”

        ด้าน มร.โธมัส ไมเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายการตลาด บริษัท แรบบิท แคร์จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะมอบการปฏิบัติการที่เป็นเลิศและยังมีทีมงานเฉพาะที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญสูง เพื่อดูแลให้การโอนย้ายนี้เป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทยังมีความมุ่งมั่นในการลงทุนกับเทคโนโลยีอันทันสมัย เห็นได้จากเทคโนโลยีระบบปฏิบัติการความแคร์ หรือ“CareOS 2.0” โดยลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์กว่า 30 บริษัท ภายใน 30 วินาที

       ลูกค้ายังคงได้ประโยชน์จากฟีเจอร์ของศูนย์รวบรวมข้อมูลและการสนับสนุนต่าง ๆ สำหรับลูกค้า(Customer portal) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะกรมธรรม์รถยนต์ จัดการเอกสาร พร้อมทั้งเข้าถึงบริการช่วยเหลือและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งรวมถึงบริการให้คำปรึกษาด้านเทคนิค บริการรถยนต์ใช้ทดแทนระหว่างซ่อมเป็นระยะเวลา 3 วัน จากผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มากกว่านั้นยังมีบริการชดเชยค่าเดินทางกลับบ้านจากการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเรียกรถยนต์ในสถานการณ์ที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถใช้งานต่อได้

ข่าวเกี่ยวข้อง