“มาหามิตร” ผนึกกำลังขับเคลื่อน “ปทุมวัน ZERO WASTE”เขตปทุมวันไร้ขยะเดินหน้าสนับสนุนนโยบายกรุงเทพมหานครพร้อมเป็นต้นแบบการจัดการขยะให้กับชุมชม และ กลุ่มธุรกิจ
กลุ่มมาหามิตร นำโดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เอ็ม บี เค, โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ และ อลิอันซ์ อยุธยา ร่วมกันตอบรับนโยบายกรุงเทพมหานคร สนับสนุนโครงการ “ไม่ เท-รวม” พร้อมรับเป็นต้นแบบการแยกและจัดการขยะในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ
นายกอปร ลิ้มสุวรรณ ผู้จัดการโครงการ Chula Zero Waste และหัวหน้ากลุ่มภารกิจการจัดการสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า“หลังจากที่ภาคีด้านสิ่งแวดล้อมของจุฬาฯ โดยสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม สำนักบริหารระบบกายภาพคณะวิทยาศาสตร์ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ และอีกหลายคณะหลายส่วนงานที่ร่วมกันดำเนินโครงการChula Zero Waste ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาในระยะเวลาหนึ่งจนถึงจุดที่เราต้องขยายองค์ความรู้ที่เรามีออกสู่สังคมให้กว้างขึ้น ประกอบกับที่โครงการฯ มีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในภาคีของโครงการ BKK Zero Waste ต่อยอดโครงการไม่เทรวม นำโดยสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากการสนับสนุนของ สสส. มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบการลดและคัดแยกขยะใน 84 แหล่งกำเนิดจาก 2 เขตนำร่อง ปทุมวัน และ หนองแขมจึงได้มาหารือและชวนกลุ่ม“มาหามิตร” ซึ่งเป็นพันธิมตร ด้านสิ่งแวดล้อมมาทำงานร่วมกัน ผลักดันให้จำนวนแหล่งกำเนิดที่มีการลดและแยกขยะในเขตปทุมวันเพิ่มมากขึ้น จึงมีความเห็นพ้องต้องกัน ในการผลักดันให้เกิดโครงการ ปทุมวัน Zero Waste ขึ้นเพื่อช่วยเมืองขับเคลื่อนเรื่องขยะ และสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆในเขตปทุมวันไปด้วยกัน”
เขตปทุมวันมีความยินดีอย่างยิ่งที่กลุ่มมหามิตร ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของภาคการศึกษา และภาคเอกชนในเขตปทุมวันได้จัดทำโครงการ “ปทุมวัน ZERO WASTE” ขึ้นเพื่อพัฒนาให้เขตปทุมวันเป็นเขตต้นแบบในการลดและแยกขยะ อย่างมีรูปธรรมสู่การจัดการขยะอย่างยั่งยืนต่อไป ส่วนกรุงเทพมหานครมีนโยบายด้านการบริหารจัดการขยะในมิติสิ่งแวดล้อมดีการสร้างต้นแบบการแยกขยะ ภายใต้โครงการ “ไม่เทรวม”โดยมีการรณรงค์และขอความร่วมมือประชาชนและสถานประกอบการ คัดแยกขยะเศษอาหารออกจากขยะทั่วไป รวมถึงการให้ความรู้การลดและคัดแยกมูลฝอย และการทิ้งมูลฝอยอย่างถูกต้องเพื่อให้การจัดการขยะที่ต้นทางเป็นไปอย่างยั่งยืน ในระยะแรกโครงการ “ไม่เทรวม” ได้จัดทำขึ้นในพื้นที่เขตนำร่อง 3 เขต ได้แก่ เขตปทุมวัน เขตพญาไท และเขตหนองแขม ระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนกันยายน2565 - เดือนมีนาคม2566 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชน และสถานประกอบการเป็นอย่างดี โดยได้รณรงค์ให้สถานประกอบการและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 1,137แห่งสามารถจัดเก็บขยะอินทรีย์ได้จำนวน 125 แห่ง ซึ่งบางแห่ง มีการคัดแยกขยะแล้วนำไปบริหารจัดการเองและสำนักงานเขตจัดเก็บนำส่งโรงปุ๋ยหมักอินทรีย์อ่อนนุช และเพื่อให้การจัดการขยะที่ต้นทางมีประสิทธิภาพจึงมีการดำเนินการโครงการในระยะที่ 2 โดยให้ประชาชนและสถานประกอบการที่มีความสนใจ เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนผ่านระบบ Traffy Fondue คลอบคลุมพื้นที่ ทั้ง 50 เขต ของกรุงเทพมหานคร นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวเพิ่มเติม
นายวรพงศ์ สุขธีรอนันตชัย ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำนักงานจัดการทรัพย์สิน (PMCU) ภายใต้โครงการ Samyan Smartcity ที่เราจะส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของคนในพื้นที่ที่เราดูแลทั้ง 7 ด้าน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม (Smart Environment) เรามีนโยบายในการบริหารจัดการขยะมาอย่างต่อเนื่องโดยใช้หลัก “3R” REDUCE – REUSE – RECYCLE ดำเนินการในพื้นที่พานิช เชิญชวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการลดและแยกขยะ ร้านค้า ร้านอาหาร มีการคัดแยกขยะทุกประเภทตั้งแต่ต้นทาง แยกขยะเศษอาหารจากร้านอาหารในย่าน ส่งเป็นอาหารสัตว์ นำใบไม้แห้งที่เก็บกวาดได้จากในพื้นที่มาทำปุ๋ยหมักเพื่อวนกลับไปบำรุงต้นไม้ในสวน มีจุดรับขยะกำพร้า เพื่อส่งทำเป็นพลังงานทดแทนให้กับชุมชนที่ Block 28 ร่วมกับ RecycleDay มีนโยบายการลดการใช้ single use plastic ที่สอดรับกับนโยบายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งจะมีการต่อยอดต่อ และพัฒนาการระบบการจัดการขยะในพื้นที่ต่างๆ ของเรา ได้แก่ สยามสแควร์ สยามสแควร์วัน สยามสเคป สวนหลวงสแควร์Block 28 CU terrace CU iHOUSE U-center ตลาดสามย่าน และ จามจุรีสแควร์ ต่อไป
“สำหรับ โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ เรามีเป้าหมายจะลดขยะไปบ่อฝังกลบเป็นศูนย์ให้ได้ ในปี 2567 โดยปัจจุบัน เรามีกระบวนการจัดการขยะทุกประเภทของโรงแรม โดยเริ่มส่งเสริมตั้งแต่ระดับพนักงาน และสร้างจิตสำนึกในกลุ่มลูกค้า เราเน้นการจัดการขยะโดยเริ่มที่การลดการใช้ ลดการสร้างขยะ เราเลิกใช้ขวดพลาสติกในโรงแรม เรามีการหมุนเวียนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ มีการปลูกผัก สมุนไพร ไว้ใช้ในโรงแรม มาตั้งแต่ปี 2559 ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา สามารถลดปริมาณขยะของโรงแรมไปได้แล้วถึง90% และโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ พร้อมต้อนรับหน่วยงานที่สนใจให้มาเยี่ยมชมดูงาน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การลดขยะว่าสามารถทำได้จริง” นางสาวอลิสรา ศิวยาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ กล่าว
นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) เพิ่มเติมว่า “กลุ่มบริษัทในเครือ เอ็ม บี เค มีความตระหนักในเรื่องของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ทั้งในระดับบุคลากรและธุรกิจในเครือ โดยเฉพาะศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ทั้ง 4 ศูนย์ คือ เอ็ม บี เคเซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตปทุมวัน รวมถึง พาราไดซ์ พาร์ค เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระรามเก้า และเดอะไนน์เซ็นเตอร์ ติวานนท์ มีการรณรงค์จัดการการแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ
สำหรับการร่วมมือกับมาหามิตรในครั้งนี้ เอ็ม บี เค มีความตั้งใจและยินดีที่จะสนับสนุนโครงการนี้ ในนามของ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส โดยจะรณรงค์ทั้งในกลุ่มพนักงานกลุ่มร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ และลูกค้าผู้มาใช้บริการ
ขณะเดียวกัน เอ็ม บี เค ยังมีเป้าหมายด้านการคัดแยกขยะ และก้าวไปสู่การเป็น Zero Waste ขยายต่อเนื่องไปในกลุ่มธุรกิจในเครือเอ็ม บี เค ส่วนศูนย์การค้า ก็จะมีการจัดตั้ง Station คัดแยกขยะเพิ่มขึ้น รวมถึงการร่วมส่งต่ออาหารส่วนเกินให้แก่ผู้ที่ต้องการด้วย
“ผมเชื่อว่าหากมีการร่วมมือร่วมใจจากพนักงาน ผู้ประกอบการร้านค้า และลูกค้าภายในศูนย์ฯ ในการทำกิจกรรมนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ก็จะสามารถการลดปริมาณขยะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายสมพล กล่าวทิ้งท้าย
นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิต กล่าวว่า “อลิอันซ์ อยุธยา มีการดำเนินการส่งเสริมการแยกขยะในกลุ่มพนักงานมาตั้งแต่ปี2562 โดยมีการส่งเสริมให้พนักงานแยกขยะทั้งที่ทำงานและที่บ้าน มีการพัฒนารูปแบบของถังขยะ วิธีการแยกขยะ การจัดการขยะ และการส่งเสริมจิตสำนึกเรื่องการแยกขยะมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทฯสามารถลดปริมาณขยะไปบ่อฝังกลบ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน เฉลี่ยพนักงาน 1 คน สร้างขยะไปบ่อฝังกลบน้อยกว่า 1.5 กิโลกรัมต่อเดือน และบริษัทฯ จะยังคงผลักดันต่อไปเพื่อลดขยะไปบ่อฝังกลบให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้ อลิอันซ์ อยุธยา พร้อมเป็นต้นแบบ และจะพยายามขยายเครือข่ายความร่วมมือการแยกขยะให้ครอบคลุมหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะ หน่วยงานภายในอาคารเพลินจิต ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ”
นอกจากนี้ ในการแถลงเปิดโครงการ ปทุมวัน ZERO WASTE มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ (SOS) ได้เข้าร่วมสนับสนุนกลุ่มมาหามิตร ในโครงการดังกล่าวด้วย “SOS มีเป้าหมายในการทำงานที่สำคัญคือการจัดการอาหารส่วนเกิน และลดมลพิษจากการขยะเศษอาหาร ผ่านการนำอาหารส่วนเกิน ไปส่งต่อให้ชุมชนที่ขาดแคลน โดยปัจจุบัน SOS มีเครือข่ายของผู้บริจาคอาหารส่วนเกิน มากกว่า 1,000 ราย และมีการส่งต่อสู่ชุมชนที่ขาดแคลนกว่า 2,400 ชุมชนทั่วประเทศ ทาง SOS จึงเชื่อว่า เราสามารถสนับสนุนโครงการปทุมวัน ZERO WASTE ได้ ทั้งจากการรับอาหารส่วนเกิน จากร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่าง ๆ ในเขตปทุมวัน ตลอดจนการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะเศษอาหารในแหล่งกำเนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะในชุมชนได้” นางสาวนันทพร ตีระพงศ์ไพบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาเครือข่ายองค์กร กล่าวเพิ่มเติม