“ SUPER ” ครึ่งปีแรก EBITDA margin ยังสูง 80 %รายได้โรงไฟฟ้าหนุน-สะท้อนการเติบโตมั่นคงจ่อCOD วินด์ฟาร์มเวียดนาม 30 MW ยืนเป้ารายได้ปีนี้โต10%
บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) โชว์ กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) งวด 6 เดือน 2566 เติบโต โดยมีจำนวน 4,090.24 ล้านบาท คิดเป็น 80 ของรายได้ รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่ขยายการลงทุน และเป็นการเติบโตต่อเนื่อง 5 ปีต่อเนื่อง ( ปี 60 – 65 ) ฟาก CEO “จอมทรัพย์ โลจายะ” ระบุสะท้อนศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเตรียม COD โครงการพลังงานลมในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ เผยโค้งหลัง ปักหมุดรายได้ปีนี้เติบโตตามนัด 10 %
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 4,090.24 ล้านบาท หรือ EBITDA margin ในอัตรา 80 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 3,900 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 /2566 EBITDA อยู่ที่ 1,886.07 ล้านบาท
ทั้งนี่การเติบโตของ EBITDA มาจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการที่ลงทุน จากโครงการโรงไฟฟ้าSPP Hybrid ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ ผลิตและขายไฟฟ้าได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อต้นปี2566 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ ของบริษัทหนองคายน่าอยู่ จำกัด หรือ NKY ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีปริมาณซื้อขายไฟตามสัญญา (PPA) จำนวน 6 เมกะวัตต์ เป็นต้น ซึ่งสนับสนุนการเติบโตของรายได้ให้เป็นไปตามแผนงาน
“ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนการลงทุนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ EBITDA margin 80 % เป็นการรักษาระดับการทำกำไรอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (ปี 2560 – 2565 ) สะท้อนว่าถึงบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพ มีการเติบโตมั่นคง มีรายรับจากโครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต"นายจอมทรัพย์กล่าว
สำหรับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD)ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม“Soc Trang” กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิต 14 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ สนับสนุนการเติบโต โดยตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ระดับ10,000 – 11,000 ล้านบาท หรือเติบโต10% จากปีก่อน และมองหาโอกาสเพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆในประเทศต่างๆ รวมถึงการเข้าลงทุนในเวียดนามตามแผนพัฒนาพลังงาน PDP8 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวในอีก 2 ปีข้างหน้า