แปซิฟิกไพพ์เผยผลประกอบการ Q1/2566กำไรรวม 137.50 ล้านบาท โต 377.90%เร่งเดินหน้าผลักดันแคมเปญ สนับสนุนการใช้ท่อเหล็ก มอก.

แปซิฟิกไพพ์เผยผลประกอบการ Q1/2566กำไรรวม 137.50 ล้านบาท โต 377.90%เร่งเดินหน้าผลักดันแคมเปญ สนับสนุนการใช้ท่อเหล็ก มอก.

แปซิฟิกไพพ์ หรือ PAP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2566 มีกำไรสุทธิ 137.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 377.90 เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรสูงขึ้น อีกทั้งนโยบายการสร้างความรับรู้ให้ผู้บริโภคเล็งเห็นความสำคัญของการเลือกใช้ท่อเหล็กที่ได้การรับรอง มอก. นั้น ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

นางเอื้อมพร ปัญญาใส กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2566 โดยรวมเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมากทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 137.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ28.77 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 109 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 377.90

บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายและบริการ 2,706.42 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน229.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.82 อันเกิดจากราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนแม้ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นก็ตาม อีกทั้งทิศทางราคาตลาดโลกยังคงมีความผันผวนสูง รวมถึงสถานการณ์การเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้ราคาตลาดของเหล็กเริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2565

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็นร้อยละ 8.25 ของรายได้จากการขายและบริการ เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 3.29 โดยเป็นผลมาจากราคาตลาดของเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าต้นทุนสินค้าคงเหลือของบริษัท รวมถึงบริษัทฯ มีการบริหารจัดการสินค้าคงเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ

“ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1 ประจำปี 2566 เติบโต เป็นเพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมที่ทำให้มีการบริโภคท่อเหล็กสูงขึ้น ในขณะเดียวกันผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อท่อเหล็กคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน โดยพบว่าท่อเหล็กที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) มีสัดส่วนที่สูงขึ้น เป็นไปตามที่บริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มไว้ พร้อมเร่งผลักดันแคมเปญทางการตลาด สนับสนุนการใช้งานท่อเหล็กมาตรฐาน มอก. เพื่อยกระดับความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน” นางเอื้อมพร กล่าว

นโยบายหลักของแปซิฟิกไพพ์ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ จนได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ มากมาย อาทิ มาตรฐาน ISO 9000, ISO 14001:20215, มาตรฐานท่อเหล็กโครงสร้าง มอก.107, มาตรฐาน UL Approval จากสหรัฐอเมริกา, มาตรฐาน JIS-Mark จากญี่ปุ่นเป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต มีขั้นตอนในการตรวจสอบและทดสอบโดยทีมวิศวกรผู้ชำนาญการพิเศษเพื่อให้ทุกชิ้นงานตรงตามมาตรฐาน

ในช่วงปีที่ผ่านมาแปซิฟิกไพพ์มีการประชาสัมพันธ์ท่อเหล็กมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อสร้างความรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคทั้งผู้สร้างโครงการบ้านและอาคาร วิศวกรก่อสร้าง ตลอดจนคนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกใช้ท่อเหล็กมาตรฐาน และหากในอนาคตมีการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับการเปิดตลาดนำเข้าได้ด้วยการมุ่งเน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์บริษัทจึงให้ความสำคัญกับมาตรฐานมาโดยตลอด

หนึ่งในแผนการดำเนินธุรกิจของปีนี้ แปซิฟิกไพพ์มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงเรื่องการลดความสูญเสียในระหว่างการก่อสร้างบ้านและอาคารด้วยการวางคอนเซ็ปต์ให้เหล็กรูปพรรณเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้จากโรงงาน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังตระหนักถึงการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความเป็นกลางทางด้านคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายใต้แนวคิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืน ESG (Environmental, Social and Governance: ESG) ด้วย

ตลอดระยะเวลา 51 ปี แปซิฟิกไพพ์มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ ควบคู่ไปกับการมีผลประกอบการทางการเงินที่ดี นอกจากนี้ยังคงรักษาประสิทธิภาพของเครื่องจักรภายในโรงงาน โดยมีกำหนดการตรวจเช็ค และปรับปรุงเครื่องจักรทุกสัปดาห์

ข่าวเกี่ยวข้อง