หลักทรัพย์ธนชาต แนะนักลงทุนปรับพอร์ต หลังหมดยุคดอกเบี้ยขาขึ้น ชวนกระจายความเสี่ยง ลงทุนเพิ่มในกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศพร้อมนำเสนอ ZEAL บริการ Portfolio Advisory เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดด้านเวลาให้กับนักลงทุน
หลักทรัพย์ธนชาต มองมูลค่าตลาดหุ้นไทยอยู่ในโซนค่อนข้างต่ำมากแล้ว แต่มีหุ้นคุณภาพดีเยี่ยมหลายตัว ที่มี margin of safety สำหรับลงทุนระยะยาว แนะนำนักลงทุนให้ปรับพอร์ตหลังหมดยุคดอกเบี้ยขาขึ้น นอกจากลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้ว ให้กระจายความเสี่ยง และหาโอกาสเพิ่มเติมผ่านการลงทุนในกองทุนหุ้น หรือกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว พร้อมนำเสนอบริการ ZEAL หรือ Portfolio Advisory เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดด้านเวลา การย่อยข้อมูล และการวิเคราะห์เชิงลึก ผ่านทีมงานมืออาชีพ เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว 3-10% ต่อปีให้กับนักลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และทีมนักกลยุทธ์การลงทุน จัดสัมมนาให้กับนักลงทุนในหัวข้อ “ปรับพอร์ตลงทุนรับปีมังกร หลังจบดอกเบี้ยขาขึ้น” พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน เพื่ออัปเดตภาพรวมการลงทุนในไทย และต่างประเทศ พร้อมคำแนะนำการบริหารพอร์ตแบบมืออาชีพ และการใช้เครื่องมือช่วยในการลงทุน เพื่อมุ่งสร้างอิสรภาพทางการเงินให้แก่ลูกค้าและผู้ลงทุน เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งงานสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจจากลูกค้าและผู้ลงทุนจำนวนมาก
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า การลงทุนตลาดหุ้นไทย (SET) ในปี 2023 เป็นปีที่ยากลำบาก ทั้งที่ตลาดหุ้นหลักทั่วโลกหลายแห่งให้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร ทั้งนี้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ และกำไรบริษัทจดทะเบียนถูกปรับประมาณการลงตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้นักลงทุนอาจกังวลต่อดการลงทุนต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่งที่ลดลง เหลือเพียง 2.4% ปีนี้ จากปีก่อนที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.6% แต่เราเห็นหลายปัจจัย ที่ทำให้สามารถ “เลือกลงทุน” ในปีนี้ ได้ ไม่ว่าจะเป็น แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยสูงที่ค่อยๆ ลดลง, ราคาน้ำมันไม่น่าจะปรับสูงขึ้นไปมากกว่าปัจจุบันมากนัก, ภาครัฐฯ จะเริ่มอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตั้งแต่ พ.ค.นี้เป็นต้นไป และที่สำคัญคือ Valuation ของตลาดหุ้นไทย อยู่ในโซนค่อนข้างต่ำมากแล้ว ทำให้บริษัทคุณภาพดีเยี่ยมหลายตัว มี margin of safety สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจมากแล้ว
นอกจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย การกระจายความเสี่ยง และหาโอกาสเพิ่มเติมผ่านการลงทุนในกองทุนหุ้น หรือกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เป็นเรื่องที่สำคัญของนักลงทุนเช่นเดียวกัน บล.ธนชาต ที่ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยง และการจัดพอร์ตลงทุน (Asset Allocation) เพื่อผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว เห็นว่ามีโอกาสในการลงทุนในตลาดหุ้นจีน กองทุนพลังงานสะอาด และกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว ที่มีคุณภาพสูง ที่คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลตอบแทนได้ดีในช่วงดอกเบี้ยขาลง
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ดีขึ้นจะทำให้นักลงทุน สามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้านเวลาที่ต้องใช้ในการย่อยข้อมูลเหล่านั้น รวมถึงข้อจำกัดในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเชิงลึก บล.ธนชาต จึงเปิดให้บริการ ZEAL หรือ Portfolio Advisory ให้กับนักลงทุน เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดด้านเวลา การย่อยข้อมูล และการวิเคราะห์เชิงลึก ผ่านทีมงานมืออาชีพ เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว 3-10% ต่อปี
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการลงทุน และบทวิเคราะห์ รวมถึงกิจกรรมต่างๆจาก บล.ธนชาต ได้ทาง Think+ application: https://www.thanachartsec.com/Content/DownloadThink/82/th และ Facebook Page: https://www.facebook.com/Thanachartsec