สรรพสามิตจับกุมบุหรี่หนีภาษีล็อตใหญ่กว่า 5 แสนซอง มูลค่ากว่า 42 ล้าน ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา
สรรพสามิตจับกุมผู้กระทำผิดบุหรี่หนีภาษีล็อตใหญ่ โดยสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา พร้อมบูรณาการร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทัพเรือภาคที่ 2 ศร.ชล.ภาค 2 ฝ่ายปกครอง ศุลกากรภาคที่ 4 และ กอ.รมน. สงขลา ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิด พรบ.ภาษีสรรพสามิตพ.ศ. 2560 บุหรี่หนีภาษียี่ห้อ Gold Mount ล็อตใหญ่จำนวน 532,500 ซอง ประมาณการมูลค่าสินค้า42,000,000 บาท ประมาณการมูลค่าภาษี 33,400,000 บาท ณ สถานที่เกิดเหตุบริเวณท่าเทียบเรืออ.จะนะ จ.สงขลา
นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า “วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิตนายวิวัฒน์ เขาสกุล ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต โดยการผนึกกำลังใน การจัดการของผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 สรรพสามิตพื้นที่สงขลา ผอ.สตป.สภ.9 รักษาการหน.ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 หน.ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา และสรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองสงขลา สายตรวจสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 สายตรวจสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา บูรณาการร่วมกับกองทัพเรือภาคที่ 2 ศร.ชล.ภาค 2 ฝ่ายปกครอง ศุลกากรภาคที่ 4 กอ.รมน. สงขลา ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ที่ลักลอบนำบุหรี่ต่างประเทศที่มิได้เสียภาษีแบบทันท่วงที ณ สถานที่เกิดเหตุบริเวณ ท่าเทียบเรืออ.จะนะ จ.สงขลา
สำหรับผลการจับกุมนั้น สามารถจับผู้ต้องหาได้จำนวน 15 คน โดยมีของกลางประกอบด้วย
1. รถยนต์กระบะตู้ทึบ จำนวน 8 คัน 2. เรือประมง จำนวน 1 ลำ และ 3. ยาสูบต่างประเทศ ยี่ห้อ Gold Mount ที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 532,500 ซอง โดยกรมสรรพสามิตได้ทำการจับกุม และได้มี การประมาณการมูลค่าสินค้า 42,000,000 บาท ประมาณการภาษี 33,400,000 บาท โดยมีการส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามและ
จับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร. บ.ภาษีสรรพสามิต 2560 อย่างเคร่งครัด โดยครั้งนี้เป็นการจับกุมล็อตใหญ่ที่หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความชอบธรรมที่ต้องมีให้กับผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต รวมถึงการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทยจากการได้รับสินค้าปลอมแปลงที่อาจเกิดปัญหาหรือส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน”
ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่ง ทั่วประเทศหรือ สายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th