วิริยะประกันภัยยืนยันการดำเนินธุรกิจ มุ่งเน้นการประกันภัย ไม่ได้แตกไลน์ไปลงทุนในธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับการดำเนินธุรกิจของ V Groupดีลเลอร์รถยนต์ที่กำลังเป็นข่าวว่าได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงว่า ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนงได้เผยแพร่ข่าวสาร
V Group ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนยี่ห้อหนึ่ง ที่จะเปิดจำหน่ายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ประกอบกับมีสื่อมวลชนหลายสำนักได้สอบถามเข้ามายังบริษัทฯ ถึงแนวทางการดำเนินการ การจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดไปถึงสัดส่วนการถือหุ้นใน V Group
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด บริษัทฯ จึงขอแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 76 ปี วิริยะประกันภัยยังไม่เคยมีแนวคิดลงทุนในธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ยังคงมุ่งมั่นในการทำธุรกิจประกันภัย เพื่อจะทำหน้าที่เป็นหลักประกันสังคม ด้วยการบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้มีความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ความเป็นธรรม คือ นโยบาย” ซึ่งเป็น DNA ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 76 ปี ด้วยเหตุนี้ วิริยะประกันภัยจึงขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวพันในการบริหารงานหรือแม้กระทั่งเข้าไปถือหุ้นใน V Group แต่อย่างใด รวมถึงผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัทวิริยะประกันภัย ก็ไม่ได้เป็นผู้บริหาร เป็นกรรมการ หรือผู้ถือหุ้น ของบริษัทต่างๆ ในเครือ V Group แต่อย่างใด
สำหรับการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า วิริยะประกันภัยยังคงเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงมอบความไว้วางใจ เลือกรับความคุ้มครองจากวิริยะประกันภัยมากที่สุด เหมือนกับการประกันภัยรถยนต์ในภาพรวมที่วิริยะประกันภัยครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องมากว่า 36 ปี ทั้งนี้การประกันภัยรถยนต์รถไฟฟ้าของวิริยะประกันภัยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ได้รับประกันภัยรถไฟฟ้า จำนวน 5,249 คันในขณะที่ปี 2566 เพียงแค่ครึ่งปีรับประกันภัยไว้ทั้งสิ้น 8,714 คัน
นอกจากนี้เพื่อตอกย้ำถึงนิยามที่ว่า “ประกันภัยรถไฟฟ้า วิริยะประกันภัยพร้อม” บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีจัดหานวัตกรรม ตลอดไปถึงการสร้างองค์ความรู้ให้กับพนักงาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย ตัวแทนนายหน้า คู่ค้า โดยล่าสุดได้เปิดปฏิบัติการสร้างองค์ความรู้ไปทั่วไทยด้วยหลักสูตร “งานปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและความปลอดภัย” (Electric Vehicle Technology and Safety) เพื่อเพิ่มองค์ความรู้แบบครบวงจรด้านการให้บริการงานซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบครึ่งปีแรกของปี 2566 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ20,000 ล้านบาท แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 18,000 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์หรือนอน-มอเตอร์ประมาณ 2,000 ล้านบาท