วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" ผู้ถือหุ้นใหญ่ STARK ควัก 74.22 ลบ.ซื้อหุ้นเพิ่ม 19.79 ล้านหุ้น เผยมั่นใจธุรกิจอนาคตสดใส - ลุ้นผลงานทำนิวไฮต่อเนื่อง
บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK เผย "วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทำรายการซื้อหุ้นจำนวน 19,793,100 หุ้น ราคาเฉลี่ย 3.75 บาท มูลค่ารวม 74,224,125 บาท รวมจำนวนหุ้นสะสมในพอร์ตทั้งหมดกว่า 8,491,543,100 หุ้น ฟากบิ๊กบอส "ชนินทร์ เย็นสุดใจ" ระบุการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ลงทุนเพิ่ม เพราะเชื่อมั่นธุรกิจมีศักยภาพเติบโตโดดเด่นหลังการเข้าลงทุนซื้อกิจการ LEONI หนุนมูลค่าเพิ่มในอนาคต มั่นใจปี 65 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ตุน Backlog หนากว่า 10,000 ล้านบาทคาดสร้างผลงานทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ได้ทำรายการซื้อหุ้นจำนวน 19,793,100 หุ้น ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 74,224,125 บาท โดยภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าวทำให้ปัจจุบันถือหุ้น STARK รวมทั้งหมด 8,491,543,100 หุ้น
"การที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มในครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีความต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเพราะเชื่อมั่นพื้นฐานธุรกิจของ STARK ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเชื่อว่าแผนการเข้าลงทุนซื้อกิจการ Business Group Automotive & EV cable (BG AM) ในบริษัท LEONI Kabel และLEONIsche ที่เป็นบริษัทย่อยของ LEONI เช่นเดียวกัน จะเป็นปัจจัยที่สำคัญช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น ขณะเดียวกันพร้อมจะเติบโตไปกับบริษัทฯที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพธุรกิจไปพร้อมกับเมกะเทรนด์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการผลักดันให้ผลงานสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง" นายชนินทร์กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทและมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยจะมาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ลที่ตลาดยังเติบโตได้ทั้งจากการขยายตัวของความต้องการไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการขยายตัวของ Renewable Energy (RE)
ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มากกว่า 10,000 ล้านบาท และมีงานที่กำลังอยู่ระหว่างการประมูลติดตามผลอยู่อีกมาก ทั้งในประเทศไทย เวียดนามและต่างประเทศ ซึ่งจะสนับสนุนอนาคตเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด