ราช กรุ๊ป เดินหน้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod ฟิลิปปินส์กำลังการผลิต 145 เมกะวัตต์ กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2568
นนทบุรี- บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความก้าวหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod ฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด 145 เมกะวัตต์ (MWp) ตั้งอยู่ในจังหวัด Negros Occidental ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2567 หลังการจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงินของฟิลิปปินส์ 2 แห่ง ได้แก่ Security Bank Corporation และ Philippine National Bank สำเร็จในเดือนตุลาคม ศกนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 ปี 2568 โครงการแห่งนี้มีต้นทุนโครงการกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะติดตั้งโซลาร์เซลล์โฟโตโวลเทอิก (Photovoltaic: PV) โดยต่อไปในระยะที่ 2 โครงการมีแผนจะติดตั้งร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อให้การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทในเครือของกลุ่ม Aboitiz Power Corporation ภายใต้สัญญาจัดหาพลังงานไฟฟ้า ระยะเวลา 10 ปี ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Wholesale Electricity Spot Market) โดยมีบริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 49 เป็นผู้บริหารและดำเนินงานโครงการ
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการพลังแสงอาทิตย์ Bacolod แสดงถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในมือทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เดินหน้าสำเร็จได้ตามเป้าหมายและสนับสนุนความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าของประเทศที่ลงทุนด้วย สำหรับโครงการ Bacolod ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการขยายฐานธุรกิจระยะยาวในฟิลิปปินส์เพื่อร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนของประเทศ รวมทั้งบริษัทฯ ซึ่งกำหนดเป้าหมาย ไว้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี 2573
“ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการในฟิลิปปินส์ 4 โครงการ รวมกำลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น ประมาณ 550 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถพัฒนาเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ โดยโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า กำลังการผลิตตามสัดส่วน ถือหุ้น 36.30 เมกะวัตต์ ได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 และโครงการ Bacolod กำลังการผลิตตามการถือหุ้น 71.05 เมกะวัตต์ กำลังเข้าสู่ช่วงของการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าให้กับลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป อีกทั้งจะยังประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมของฟิลิปปินส์อีกด้วย” นายนิทัศน์ กล่าวปิดท้าย
นอกเหนือจาก โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod แล้ว บริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการพลังงานลมใกล้ชายฝั่ง ซาน มิเกล เบย์ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 500 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง ลูเซนา ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 475 เมกะวัตต์