ผถห. JR ไฟเขียวจ่ายปันผลงวดปี 66 อัตรา 0.04 บ./หุ้นเตรียมรับทรัพย์ 30 เม.ย.นี้ปูพรมปี 67 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% Backlog แน่น 9,243 ลบ.

ผถห. JR ไฟเขียวจ่ายปันผลงวดปี 66 อัตรา 0.04 บ./หุ้นเตรียมรับทรัพย์ 30 เม.ย.นี้ปูพรมปี 67 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% Backlog แน่น 9,243 ลบ.

ผู้ถือหุ้น บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) อนุมัติจ่ายปันผลในงวดปี 66 เป็นเงินสดในอัตรา 0.04 บาท/หุ้น เตรียมรับทรัพย์วันที่ 30 เม.ย.นี้ ฟากผู้บริหาร “สุรเดช อุทัยรัตน์”ส่งสัญญาณบวก หลังโครงการก่อสร้างกลับมาเดินหน้าตามปกติ หนุนรายได้ปี 67 โต 10-15% โชว์ Backlog แน่น 9,243 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ใน 3-5 ปีข้างหน้า หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ แย้มจ่อคว้างานใหม่เพียบ หลังลุยรับงานในกลุ่มปิโตรเคมี ไฮมาร์จิ้น 

นายสุรเดช อุทัยรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) (JR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 9 เมษายน 2567 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม 2566) เป็นเงินสดในอัตรา 0.04 บาท/หุ้น และกำหนดจ่ายในวันที่ 30 เมษายน 2567

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 9,243 ล้านบาท และอยู่ระหว่างยื่นประมูลโครงการใหม่ต่อเนื่อง 

“คาดว่าในปีนี้ Backlog จะกลับมาแตะที่ระดับ 10,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น”

นายสุรเดช กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่างานก่อสร้างโครงการต่างๆ จะกลับมาเดินหน้าตามปกติ หลังรัฐบาลอนุมัติกรอบงบประมาณในปี 2567 และบริษัทฯมีโอกาสได้งานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ JR ยังมีแผนเข้ารุกตลาดในส่วนของงานกลุ่มปิโตรเคมี ที่ทีมงานมีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์มายาวนาน ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง และคู่แข่งในตลาดมีน้อย อีกทั้งมาร์จิ้นยังอยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าจะได้รับงานเร็วๆนี้

สำหรับ Backlog โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู เฟส 2 มูลค่าเกือบ 7,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และงานก่อสร้าง Substation ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวนกว่า 500 ล้านบาท ได้เริ่มดำเนินก่อสร้างแล้ว

ส่วนการปรับค่าแรง 2-16 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันพนักงานของบริษัทฯ เป็นผู้ที่มีทักษะและความชำนาญ ทำให้มีอัตราค่าแรงเกินเกณฑ์ของรัฐบาลไปค่อนข้างมากอยู่แล้ว

ทั้งนี้  ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,944.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,885.74 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61.78 ล้านบาท

ข่าวเกี่ยวข้อง