ผถห.SSP ไฟเขียวเทกโรงไฟฟ้าชีวมวล 9.9 MWมูลค่าลงทุน 500 ลบ.
ผู้ถือหุ้น SSP ไฟเขียวอนุมัติทุ่มงบ 500 ล้านบาท ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดนครราชสีมา ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ มั่นใจให้ผลตอบแทนดี คาด IRR 10% ฟากซีอีโอ “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ระบุสามารถรับรู้รายได้ทันที ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น ขนาด 20 เมกะวัตต์ และเวียดนาม ขนาด 48 เมกะวัตต์เตรียม COD ตามแผน ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมปี 64 มากกว่า 200 เมกะวัตต์ สนับสนุนผลงานทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแบบครบวงจร
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) SSP เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกกะวัตต์ โดยการซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (ยูพีที) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นของยูพีที รวมถึงสิทธิในการรับชำระหนี้เงินกู้ในส่วนที่ยูพีทียังคงค้างชำระแก่ผู้ถือหุ้นของยูพีทีด้วย มูลค่าลงทุนรวม 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเข้าทำรายการเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นของยูพีที จำนวน 119,070 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 49% ภายในเดือน กรกฎาคม 2564 และคาดว่าจะเข้าทำรายการเพื่อให้ได้ ซึ่งหุ้นของยูพีทีจำนวน123,930 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 รวมเป็นการเข้าซื้อหุ้นของยูพีทีทั้งสิ้นจำนวน 243,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 100%
ทั้งนี้ บริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (ยูพีที) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล โดยดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลัง 9.9 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่ตำบลสี่คิ้วอำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 มีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นจำนวน 20 ปีนับแต่วัน COD
"การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในครั้งนี้จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประเมินอัตราผลตอบแทน( IRR)ในระดับ 10% และคาดว่าจะใช้เวลาคุ้มทุนภายใน 7 ปี โดยราคารับซื้อไฟฟ้ารูปแบบFeed-in Tariff (FiT) ที่ 4.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้ามาทันที ถึงแม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 แต่บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ โดยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าในเวียดนาม กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ เตรียมขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ตามแผน ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมทะลุ 200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่143 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลของ SSP ถือเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบครบวงจร อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมองหาการลงทุนในทุกรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าต่อไป โดยวางเป้าหมายช่วง 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง