ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ปี 63 เบี้ยรับรวมนิวไฮพุ่งเฉียด 6 พันลบ.

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ปี 63 เบี้ยรับรวมนิวไฮพุ่งเฉียด 6 พันลบ.

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ โชว์ผลงานงวดปี 2563 เบี้ยรับรวมพุ่งทะลุเป้าเฉียด 6 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 70 ปี หลังเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์-บริการใหม่ กระแสตอบรับ“ประกันรถเปิด-ปิด” ดีต่อเนื่อง พร้อมนำ Big Data-เทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำระบบคัดกรองความเสี่ยง กด Loss Ratio เหลือ 59% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น มั่นใจปี 2564 เบี้ยรับรวมพุ่งทะยานต่อแตะ 6,500 ล้านบาท หลังเตรียมเดินหน้าคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันรูปแบบใหม่-สร้างนวัตกรรมงานบริการ รองรับวิถีชีวิตยุค New Normal ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Insure Tech

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ “TVI” ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2563 (1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 63) ว่า เบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตกว่า 25% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ5,900 กว่าล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5,500 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 70 ปีตามการเติบโตของเบี้ยประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถเปิด-ปิด ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจากล่าสุดได้มีการพัฒนาต่อยอดบริการให้ลูกค้าสามารถท็อปอัพชั่วโมงการใช้งานจริง เพิ่มความยืดหยุ่น ทั้งในเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่ายเบี้ยประกัน สอดรับวิถีชีวิตยุค New Normal ควบคู่ไปกับการเน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเชิงรุก ผ่านช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง อาทิ ช่องทางออนไลน์เป็นต้น ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยรับที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตกว่า 30% แตะ 4,500 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการนำ Big Data และเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และความแม่นยำระบบคัดกรองความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้น ทำให้อัตราค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) อยู่ที่ราว 59% ใกล้เคียงกับปีก่อน ภายใต้ความสามารถการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพระดับสูงต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและการดำเนินงานสุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจาก 92.5% ในปีก่อน เหลือ 88.0% ส่งผลให้บริษัทฯยังคงมีกำไรสุทธิ 78.3 ล้านบาท แม้รายได้จากการลงทุนสุทธิจะได้รับผลกระทบจากมูลค่ายุติธรรมของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ปรับลดลง ตามแนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลก หลังภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19  

นายจีรพันธ์ บอกเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมในปี 2564 บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค New Normal ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Insure Tech พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบ AI ยกระดับระบบการบริหารงานด้านสินไหมรถยนต์ให้ Automate มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสผนึกความร่วมมือพันธมิตรรายใหม่ๆ ขยายช่องทางการขาย เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงการประกันภัย ผลักดันเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโต 8 % แตะ 6,500 ล้านบาท  

 ทั้งนี้ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ (XD) วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2564

ข่าวเกี่ยวข้อง