บอร์ด NDR ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.03 บ./หุ้น-แจกวอแรนต์ฟรี 4:1พร้อมโชว์รายได้ปี 64 โต 9.04% ฝ่าวิกฤติโควิดปักธงปีนี้แตะ 900-1,000 ลบ. ยิ้มรับครม.หนุนมาตรการ EV
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.03 บ./หุ้นขึ้น XD 8 มี.ค. รับทรัพย์ 29 เม.ย. นี้ พร้อมแจกวอแรนต์ฟรี 4:1 ผู้บริหารคนเก่ง “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” กรรมการผู้จัดการ เผยงบปี 2564 ฟันรายได้อยู่ที่ 852.04 ล้านบาท เติบโต 9.04% จากปีก่อนแม้เจอวิกฤติโควิด เหตุปรับกลยุทธ์ได้ทันสถานการณ์ แถมตลาดต่างประเทศหนุน พร้อมปักธงเป้ารายได้ปีนี้แตะ 900-1,000 ลบ. เดินหน้าลุยขยายตลาดเกาหลีใต้-กัมพูชา ยิ้มรับอานิสงส์ ครม.อัดมาตรการสนับสนุน EV หนุนการเติบโตของ ETRAN แข็งแกร่ง
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำงวดผลการงวดดำเนินงานวันที่1 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น โดยขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 8 มี.ค. 2565 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เม.ย. 2565 นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือ NDR-W2 จำนวน 86,722,878 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า และกำหนดอัตราการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญในสัดส่วน 1:1 ราคาหุ้นละ 3.50 บาท ทั้งนี้ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ออก
โดยบริษัทจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 86,722,878 หุ้น เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วของบริษัทฯ ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเพิ่มทุน
ทั้งนี้ บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานในปี 2564 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 852.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น70.61 ล้านบาท หรือ 9.04% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 781.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.90 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 45.21 ล้านบาท โดยสาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้เข้ากับสภาพตลาด รวมถึงการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยตลาดต่างประเทศที่ส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น คือ ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา
“แม้ว่าในปี 2564 จะยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อยู่ก็ตาม แต่ผลการดำเนินงานในภาพรวมมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทฯ สามารถทำรายได้เกือบเท่ากับปี 2562 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในแผนงานของปี 2564” นายชัยสิทธิ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 บริษัทฯ จึงยังคงขอความร่วมมือจากพนักงานให้ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ได้ประกาศไว้ ดังนี้ 1. พนักงานทุกคนและผู้มาติดต่อต้องผ่านจุดคัดกรองเพื่อตรวจวัดไข้ก่อนเข้าพื้นที่บริษัทฯ 2. ผู้มาติดต่อต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม 3. พนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ 4. รณรงค์ให้พนักงานหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างทางสังคม 5. มีการตรวจATKบุคคลภายนอกก่อนอนญุาตให้เข้าบริษัท 6. มีการจัดการทำงานด้วยระบบBubble and Seal เพื่อให้การแพร่ระบาดอยู่ในวงจำกัดและสามารถควบคุมได้ และ7. มีการเตรียมความพร้อมสำหรับทำ Factory Isolation สำหรับพนักงานที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ประมาณ 900 - 1,000 ล้านบาท เนื่องจากประเมินภาพรวมตลาดยางรถจักรยานยนต์น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าปีก่อน และมุ่งเน้นขยายตลาดในรูปแบบจำหน่ายทางตลาดออนไลน์เป็นหลัก เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายตลาดในกัมพูชา และเกาหลีใต้ หลังจากปีก่อนบริษัทฯ สามารถเข้าไปสู่ตลาด 2 ประเทศนี้ได้แล้ว โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะใกล้เคียงปีก่อน แบ่งเป็นต่างประเทศ 60% และในประเทศ 40%
นายชัยสิทธิ์ กล่างทิ้งท้ายว่า จากกรณีที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ โดยมีทั้งการลดอากรนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต รวมถึงการให้เงินอุดหนุนนั้น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท และบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัดETRAN (NDR ถือหุ้นในสัดส่วน 35%) เนื่องจาก ETRAN เป็นผู้ประกอบธุรกิจออกแบบพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์อีทราน ขณะที่ NDR เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอก และยางในรถจักรยานยนต์