ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำ 3 มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง จัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 จำนวน 3 มาตรการ ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ได้รับ
ความช่วยเหลือนาน 1 ปี โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวดลง ประกอบด้วย 1. มาตรการ
ภาคครัวเรือน “HD1” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 3 เดือน และผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้น 3 เดือนแรก จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) 2. มาตรการภาคครัวเรือน “HD2” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 1.90% ต่อปี นาน 3 เดือน และคำนวณเงินงวดผ่อนชำระเงินเริ่มต้นเดือนที่ 1 - 3 จากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท และ 3. มาตรการภาคครัวเรือน “HD3” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย
0% ต่อปี นาน 4 เดือน และผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเดือนที่ 1 - 4 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม – 31 มีนาคม 2567
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” นอกจากจะสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมามากกว่า 4.4 ล้านครอบครัวแล้ว ธนาคารยังพร้อมช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้สามารถผ่อนชำระเงินงวดได้ตามความเหมาะสมต่อเนื่องจากปี 2566
ที่ได้ดำเนินการจัดทำมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังโดยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือลูกค้าให้กลับมาผ่อนชำระได้ตามปกติเป็นจำนวนมาก ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2566 มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการสูงถึง 196,232 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 200,055 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการหนี้ ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.06% ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้และมีแนวโน้มลดลง
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดมากขึ้น ธอส. จึงได้เดินหน้าจัดทำ “มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567” โดยให้ความช่วยเหลือนาน 1 ปี จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย
1. มาตรการภาคครัวเรือน “HD1” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-3 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี, เดือนที่
4-6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท และเดือนที่ 7-12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ(หากมี)
2. มาตรการภาคครัวเรือน “HD2” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท, เดือนที่ 4 - 6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท และเดือนที่ 7 - 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย MRR-2% +100 บาท (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.90% ต่อปี) กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
3. มาตรการภาคครัวเรือน “HD3” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 4 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี, เดือนที่ 5-8 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท และเดือนที่ 9 - 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90% +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
“ลูกค้าส่วนใหญ่ของ ธอส. เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง และมีกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้
ทำให้ขาดความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ เสี่ยงต่อการตกชั้นหนี้ และต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือ SM ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ ธอส. ให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำมาตรการ
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ที่จะสิ้นสุดมาตรการให้ความช่วยเหลือในปี 2566 นี้ รวมไปถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า ดังนั้นเชื่อว่าการออกมาตรการช่วยเหลือ 3 มาตรการนี้
จะสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะช่วยให้ลูกค้าสามารถรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป” นายกมลภพ กล่าว
สำหรับลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการข้างต้น สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม
– 31 มีนาคม 2567 ผ่านทาง Application : GHB ALL BFRIEND โดยลูกค้าจะต้อง Upload หลักฐานยืนยัน
การได้รับผลกระทบทางรายได้เพื่อให้ธนาคารพิจารณาด้วย ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่สาขาทั่วประเทศ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th