ทีเอ็มบีธนชาต  ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อันเนื่องจากการสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟู ฯ พร้อมดูแลลูกค้าทุกกลุ่มให้บริหารสภาพคล่องและดำเนินธุรกิจได้

ทีเอ็มบีธนชาต  ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อันเนื่องจากการสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟู ฯ พร้อมดูแลลูกค้าทุกกลุ่มให้บริหารสภาพคล่องและดำเนินธุรกิจได้

กรุงเทพฯ 2 มกราคม 2566 -- ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สอดรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับการสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) โดยเข้าสู่อัตราปกติที่ 0.46% มีผลวันที่ 1 มกราคม 2566  ซึ่งเป็นต้นทุนของภาคธนาคารที่จำเป็นต้องสะท้อนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  ทั้งนี้ธนาคารยังคงมุ่งเน้นดูแลลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่มให้สามารถปรับตัวและบริหารจัดการสภาพคล่องได้   และพร้อมสนับสนุนและผลักดันมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมเพิ่มเติม

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา และล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ให้กลับเข้าสู่อัตราปกติที่ 0.46%ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.23% ต่อปีมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีกครั้ง  เพื่อสะท้อนต้นทุนทางการเงินของธนาคาร

ทั้งนี้ ธนาคารจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) 0.30% ในขณะที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี เพิ่มขึ้น 0.40% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate)  0.40% โดยการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

“ทีเอ็มบีธนชาตมีความเข้าใจและห่วงใยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อลูกค้ากับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จึงได้ใช้แนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบค่อยเป็นค่อยไปมาโดยตลอด เพื่อช่วยให้ลูกค้ายังคงสามารถจัดการบริหารสภาพคล่องในการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจได้ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าในปี 2566 นี้ ต้นทุนของธนาคารพาณิชย์มีการปรับเพิ่มขึ้น ในฐานะสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ทีเอ็มบีธนชาตพร้อมร่วมผลักดันและสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ด้วยทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นธนาคารจึงได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากหลายบัญชี ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าเงินออมที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ดีที่สุดและตอกย้ำจุดยืนในการช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย” นายปิติ กล่าวสรุป

ล่าสุดธนาคารได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยเชื่อว่านอกจากลูกค้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ย ยังจะเป็นแรงจูงใจให้คนหันมาออมเงินเพิ่มมากขึ้น

·    บัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ สูงสุด 1.1% ต่อปี สำหรับบัญชีที่มีวงเงินฝากตั้งแต่ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนถอนเมื่อไหร่ก็ได้  สามารถตอบโจทย์การออมเงิน โดย 1 บัญชีหลัก สามารถแยกกระเป๋าเก็บเงินได้หลายเป้าหมาย โดยไม่ต้องเปิดหลายบัญชี สามารถเปิดบัญชีได้ง่าย ๆ ผ่านแอป ทีทีบี ทัช

·   บัญชี ทีทีบี มีเซฟ ปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น 1.70% ต่อปี สำหรับยอดเงินฝากตั้งแต่บาทแรกจนถึง 100,000 บาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากแบบดิจิทัลที่ให้สิทธิพิเศษด้านดอกเบี้ย เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น และวัยทำงาน ที่เริ่มเก็บเงินและต้องการความยืดหยุ่นด้านบัญชีเพิ่มมากขึ้น

·   บัญชี ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ บัญชีเงินฝากประจำ 24 เดือน ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเป็น2.5% ต่อปี เริ่มต้นฝากเพียงเดือนละ 5,000 บาท รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ยิ่งฝากนาน ดอกเบี้ยยิ่งสูง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูง เพิ่มสภาพคล่อง ถอนได้ก่อนกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ย

ข่าวเกี่ยวข้อง