ทรู คอร์ปอเรชั่น แข็งแกร่งต่อเนื่อง ปิดการขายหุ้นกู้ทะลุเป้าขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นและไว้วางใจเสมอมา
กรุงเทพฯ : 30 สิงหาคม 2567 - บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขอบคุณนักลงทุนทุกกลุ่มที่ให้ความเชื่อมั่นจองซื้อหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่น ซึ่งเสนอขายระหว่างวันที่ 27 – 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนให้การตอบรับอย่างล้นหลาม ส่งผลให้มียอดจองซื้อเต็มจำนวน 14,000 ล้านบาทอย่างรวดเร็ว จนต้องเปิดขายหุ้นกู้สำรองเพิ่มเติมอีก 4,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนและร่วมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกันกับทรู ผู้นำธุรกิจโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอันดับ 1 ของไทยและอันดับ 1 ของโลกด้านความยั่งยืนและมี EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 6 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้บริษัทสามารถปิดการขายหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รวมถึง 18,000 ล้านบาท
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า "บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจและไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ของทรูเป็นอย่างดีเสมอมา ตลอดจนขอขอบคุณผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่งที่ให้การสนับสนุนบริษัทด้วยดี ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพกสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซีไอเอ็มบี ยูโอบี บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส รวมทั้งนักลงทุนที่จองหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุนจนต้องนำหุ้นกู้สำรองออกขายเพิ่มเติม รวมเป็นยอดการขายหุ้นกู้ถึง 18,000 ล้านบาทในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อทรูซึ่งมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน มี EBITDA เติบโตขึ้น 6ไตรมาสติดต่อกัน และดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดี จนได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลกสำหรับดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 6"
สำหรับการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายมี 5 ชุด อายุตั้งแต่ 1 ปี 3เดือน จนถึง 10 ปี พร้อมอัตราดอกเบี้ยคงที่ตั้งแต่ร้อยละ 2.85 ถึง 4.20 ต่อปี ซึ่งตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นอกจากนี้บริษัทและหุ้นกู้ยังได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A+” แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัทในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง มีความแข็งแกร่งทางธุรกิจและมีศักยภาพในการเติบโต และมีธรรมาภิบาลที่ดีได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลกสำหรับดัชนีความยั่งยืนDow Jones Sustainability Indices (DJSI) ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 อีกด้วย