กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมสนับสนุนโครงการ ต้องรอด Up For Thai
กรุงเทพประกันชีวิต นำผู้บริหารและพนักงานจิตอาสา ร่วมแบ่งปันความห่วงใยคืนสู่สังคมไทยผ่านโครงการ “ต้องรอด Up For Thai” พร้อมสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคมูลค่ากว่า 300,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการวิกฤตไวรัสโควิด-19 ณ วัดเทวสุนทร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
นายโชน โสภณพนิช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญก็คือการช่วยเหลือทางสังคมและเล็งเห็นความสำคัญจากสถานการณ์แพร่ระบาดระลอกที่สามของไวรัสโควิด-19 พร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนทุกคน จึงได้เชิญชวนพนักงานจิตอาสา นำโดย หม่อมหลวงจิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะผู้บริหาร ร่วมกิจกรรมจิตอาสาของโครงการ ต้องรอด Up for Thai พร้อมสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคมูลค่ากว่า 300,000 บาท เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 ในครั้งนี้ด้วย
โครงการ “ต้องรอด Up For Thai” เป็นโครงการที่จัดตั้งโดย ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล จิตอาสาผู้บุกเบิกโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทั้งอาหาร น้ำดื่ม และอื่น ๆ ให้แก่คนในพื้นทั่วกรุงเทพมหานครที่ต้องการ รวมถึงบริการด้านข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 เพื่อแบ่งเบาภาระการทำงานจากหน่วยงานรัฐและเปิดศูนย์อาสา “ต้องรอด Up for Thai” ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนอาสาที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยทุกคนที่กำลังประสบปัญหาให้ได้มีอาหารและมีของยังชีพในการดูแลตนเองและคนในครอบครัว
ผู้บริหารและพนักงานของ กรุงเทพประกันชีวิต ที่ร่วมเป็นจิตอาสาได้ปฏิบัติตามหลักการรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เหมาะสมในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย รักษาความสะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์ ส่วนหมวก ผ้ากันเปื้อนและถุงมือ เพื่อลดการระบาดและส่งเสริมความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันการติดเชื้อ
เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี กรุงเทพประกันชีวิต เราจึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทยรวมถึงผู้คนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะคนที่มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ ซึ่งไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติและอยากส่งต่อกำลังใจแบ่งเบาความทุกข์ยากให้เพื่อนร่วมสังคมไทยทุกคนก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปพร้อมกัน โชน โสภณพนิช กล่าวทิ้งท้าย