WP แย้มแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังโตเด่นดีมานด์ก๊าซ LPG พุ่ง-ราคาขายภาคครัวเรือนสดใสมั่นใจปีนี้ยอดขายแตะ 8 แสนตัน-รายได้ทะลุ 1.7 หมื่นลบ.
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ประเมินภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รับปัจจัยหนุนจากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณขายก๊าซพุ่งแรง ดันยอดขายในประเทศโตทะลัก ส่วนปริมาณการส่งออกคึกคัก ส่วนการลงทุนในธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปสัญญาณดี ฟาก "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" มั่นใจยอดขายก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศโตตามเป้าแตะ800,000 ตัน ส่วนรายได้คาดไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท ปูพรมลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงาน หวังผลักดันธุรกิจอนาคตเติบโตยั่งยืน
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังปี 2566 เชื่อว่ามีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศในทุกกลุ่มลูกค้า รวมถึงแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจนตามความต้องการใช้มากขึ้น จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีทำให้ธุรกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
รวมทั้ง บริษัทฯ มีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขณะที่การลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) สามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปได้มีการเซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้วขนาดกำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดภายในปี 2566อยู่ที่ 20 เมกะวัตต์
“ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทนหรือการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยตั้งงบลงทุนไว้กว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 300 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ 200 ล้านบาท ” นางสาวชมกมลกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะทำได้ตามเป้าที่800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตัน ซึ่งทำให้คาดว่ารายได้รวมจะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท