"TERA" จัดทัพโรดโชว์หัวเมืองใหญ่ 4-8 มี.ค.นี้ขายไอพีโอ 90 ล้านหุ้น-คาดเข้าเทรด mai Q2/67ชูผู้นำธุรกิจบริการไอทีครบวงจร พื้นฐานแกร่ง ผลงานโตเด่น
บมจ. เทอร์ราไบท์ พลัส หรือ TERA ผนึกบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เดินสายโรดโชว์พบนักลงทุนก่อนเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 90 ล้านหุ้น เปิดฉากเรียกความเชื่อมั่นในหัวเมืองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 4-8 มี.ค. นี้ คาดเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในไตรมาส 2/2567 ฟาก “สุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ระบุนำเงินจากการระดมทุนขยายธุรกิจ ผลักดันการเติบโตอย่างมีศักยภาพ มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม เหตุพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมโชว์จุดเด่นเป็นผู้ให้บริการไอทีครบวงจรอยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์ มีรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Revenue) ที่สูง และการจ่ายเงินปันผลตามนโยบายอย่างสม่ำเสมอ
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะนำ TERA เดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ในระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2567 เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน 5 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดเชียงใหม่, อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และปิดท้ายโรดโชว์ที่กรุงเทพฯ ตามลำดับ หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) อนุญาตให้บริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เรียบร้อยแล้ว
“การโรดโชว์ครั้งนี้ TERA เตรียมนำข้อมูลธุรกิจและศักยภาพการเติบโตในทุกมิติ รวมถึงตอกย้ำจุดเด่นเพื่อให้นักลงทุนรู้จักและเข้าใจลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2/2567” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านนายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน TERA มีทุนจดทะเบียนจำนวน 120 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 75 ล้านบาท (ก่อนเสนอขายหุ้น IPO) โดยบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 37.50% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์นำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ใช้เป็นเงินลงทุนในระบบ Cloud เพื่อเพิ่มปริมาณการให้บริการ T.Cloud แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้ Local Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ และ เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
กลุ่ม TERA ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการด้านระบบคลาวด์ จัดจำหน่ายและให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ให้บริการแอปพลิเคชั่น ด้าน Logistics รวมถึงการลงทุนในกิจการอื่นๆ ที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่นทางธุรกิจต่างๆ โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจได้แก่
1. กลุ่มธุรกิจบริการระบบเก็บข้อมูลและประมวลผลระบบสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบสมาชิกแบบต่อเนื่อง (Cloud & Recurring Services)
2. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (On-Premise Hardware & Cyber Security)
3. กลุ่มธุรกิจระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการ การขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System:TMS) ภายใต้ตราสินค้า “Skyfrog”
4. กลุ่มธุรกิจการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
สำหรับผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลังและงวด 9 เดือนปี 2566 ที่ผ่านมา (2563-Q3/2566) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 315.73 ล้านบาท 390.55 ล้านบาท 555.29 ล้านบาท และ 462.86 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.74 ล้านบาท 18.71 ล้านบาท 25.79 ล้านบาท และ 27.47 ล้านบาท ตามลำดับ จึงน่าจะเป็นจุดเด่นที่ทำให้นักลงทุนสนใจ และได้รับการตอบรับที่ดี
บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ (งบการเงินเฉพาะบริษัท) หลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ CEO บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA กล่าวว่า การโรดโชว์ให้กับนักลงทุนระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคมนี้ บริษัทฯ จะนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในลักษณะการประกอบธุรกิจ โดยมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะนอกจากธุรกิจจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ในอนาคตยังมีแผนขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ที่สำคัญสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น
“การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai นับเป็นก้าวที่สำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโต ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร ตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ซึ่งการที่ TERA เป็นหนึ่งใน IT Solution Provider ที่นำเสนอโซลูชั่นไอทีที่มีคุณภาพ อยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์ ให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญในโซลูชั่น และมีพื้นฐานทางด้านธุรกิจที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องทุกปี ทำให้เชื่อว่าหุ้น TERA จะทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน” นายสุรสิทธิ์ กล่าวในที่สุด