SUPER เดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศเต็มพิกัด จ่อ COD โครงการวินด์ฟาร์มในเวียดนามเฟสแรก 80 เมกะวัตต์ ในเดือนตุลาคมนี้ ฟากซีอีโอ“ จอมทรัพย์ โลจายะ”ประเมินธุรกิจครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มั่นใจฝ่ากระแสวิกฤติโควิด-19 ทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในมือที่มีขนาดกำลังผลิตรวม 1,563.32  เมกะวัตต์ ช่วยผลักดันผลงานทำสถิตินิวไฮได้ต่อเนื่อง

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SUPER  เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทฯมั่นใจว่าจะยังรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ฯ ซึ่ง SUPER ยังคงเดินหน้าในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศ และต่างประเทศต่อเนื่องได้ตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจะดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม เฟสแรก ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 80 เมกะวัตต์ ภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 421 เมกะวัตต์ รวมทั้งทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าเดิมในพอร์ตในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,563.32  เมกะวัตต์ เช่นโครงการโซลาร์ฟาร์มฯในประเทศเวียดนาม โครงการโรงไฟฟ้าขยะ โครงการ Private PPA จะช่วยผลักดันให้ผลงานในปี2564 สามารถทำสถิติสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง

"ในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี มั่นใจว่าจะสามารถผ่านพ้นกับวิกฤติโควิด-19ในครั้งนี้ไปได้ โดยโครงการวินด์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม เฟสแรก 80  เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมโดยล่าสุดมีการติดตั้งกังหันลมกว่า 90% ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถ COD ได้ตามกำหนด  ขณะที่มีโครงการเดิมที่ทยอยรับรู้รายได้เข้ามาสนับสนุน ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มฯ ในประเทศเวียดนาม 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่มขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายปี2563 โรงไฟฟ้าขยะ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นจากและสนับสนุนการเติบโตของรายได้เติบโตกว่ากระโดดเช่นกัน”

ปัจจุบัน SUPER มีพอร์ตโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้วนั้น มีจำนวนมากกว่า 100 แห่ง มีขนาดกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,536.3 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตในประเทศ 699.6 เมกะวัตต์ และในต่างประเทศ 836.7 เมกะวัตต์  โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900 – 2,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2565 และมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญการลงทุนด้านพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อไปสู่เป้าหมาย การมีแหล่งรายได้ระยะยาว ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น  ตลอดจนยังแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ  ที่มีศักยภาพการเติบโตต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน ผลักดันการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอต่อการขยายการลงทุนในทุกโครงการ ซึ่งจะผลักดันการเติบโตได้ต่อเนื่องปัจจุบันมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินชั้นนำในการสนับสนุนวงเงิน เพื่อใช้สำหรับการขยายการลงทุนในทุกโครงการ

อนึ่ง สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกปี 2564 SUPER  มีรายได้รวม 4,421.0  ล้านบาท เพิ่มขึ้น34.9% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 3,276.5  ล้านบาท  ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,913.2 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 92.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 994.4 ล้านบาท