PRM ส่งสัญญาณ Q4/66 เข้าเป้า ธุรกิจเรือขนส่งเข้าสู่ High season หนุนรายได้ปีนี้โต 10% ตามนัดปักธงปี 67 มุ่งขยายกลุ่มเรือปิโตรเคมี-ออฟชอร์ซัพพอร์ต
บมจ. พริมา มารีน (PRM) คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/66 เข้าเป้า หลังธุรกิจขนส่งน้ำมันภายในประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งน้ำมันเครื่องบิน เนื่องจากเป็นช่วง High season รวมถึงผลดีจากการมาตรการ Free Visa ให้กับนักท่องเที่ยวจีน ประกอบกับเรือขนส่งปิโตรเคมีใหม่เข้าให้บริการแล้ว ทั้ง 2 ลำ ฟากผู้บริหาร “วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์” มั่นใจปีนี้รายได้โตเข้าเป้า 10% ปักธงปี 67 มุ่งเน้นขยายกลุ่มเรือปิโตรเคมี และธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต โดยพร้อมให้บริการเรือ AWB ลำที่ 2 ม.ค. 67 ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ทัน
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (PRM) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจขนส่งน้ำมันภายในประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งน้ำมันเครื่องบิน เนื่องจากเป็นช่วง High season ตามฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงจะได้รับผลดีจากการมาตรการ Free Visa ให้กับนักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาล ประกอบกับเรือขนส่งปิโตรเคมีเหลวลำที่ 2 ขนาด 11,000 DWT ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวม 1,835.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 333.8 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,033.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,444.20 ล้านบาท
นายวิริทธิ์พล กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงมองโอกาสในการขยายธุรกิจในส่วนของกลุ่มเรือ Offshore Support อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้สัญญาการให้บริการเรือขนส่งและที่พักกลางทะเล (Accommodation Work Barge, AWB) จาก ปตท.สผ. เพิ่มอีก 1 ลำ โดยจะรับเรือในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ พร้อมรับรู้รายได้ตั้งแต่ ม.ค. 67 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีเรือ AWB ให้บริการในอ่าวไทยถึง 2 ลำ ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นขยายกลุ่มเรือปิโตรเคมีและธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นหาเรือขนส่งปิโตรเคมีเสริมกองเรืออย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับโรงกลั่นในภูมิภาคที่กำลังขยายกำลังการผลิต ส่วนธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต ประเมินว่ายังมีความต้องการสูงตามกิจกรรมการขุดเจาะสำรวจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เตรียมรับเรือ Crew Boat อีก 2 ลำ เพิ่มเติมเพื่อเข้างานระยะยาวในปี 2567 ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพและเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการของปี 2567 ให้เติบโตตามแผนระยะยาว