MTC โรดโชว์ไต้หวัน อวด "รายได้-กำไร" ออลไทม์ไฮ
MTC โรดโชว์ไต้หวัน อวด “รายได้-กำไร” ออลไทม์ไฮ
ครึ่งปีหลังลุยปล่อยกู้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์
ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้โต 35%
MTC ผนึก บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เดินสายโรดโชว์ประเทศไต้หวัน โชว์ศักยภาพการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด “รายได้-กำไร” ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง บิ๊กบอส “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” แย้มครึ่งปีหลังจ่อลุยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ต่อยอดธุรกิจ เพิ่มฐานรายได้ หนุนกำไรทะลัก
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 มีนาคม 2562 บริษัทฯได้เดินทางไปกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เพื่อไปร่วมงาน UBO KayHian ASEAN CONFERENCE 2019 จัดโดย บริษัท หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) โดยการโรดโชว์ในครั้งนี้มีกองทุนตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 15 กองทุน เพื่ออัพเดทข้อมูลและแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
“การเดินทางไปโรดโชว์ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นกองทุนที่มีต่อ MTC เพราะในช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทั้งในแง่ของพอร์ตสินเชื่อ รายได้ กำไร ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และในปีนี้ เราตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อโต 35% ผลักดันรายได้และกำไร ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามการเพิ่มขึ้นของยอดปล่อยสินเชื่อ”
ทั้งนี้ ตัวแปรหลักที่ทำให้พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 เตรียมเปิดสาขาเพิ่มจำนวน 600 สาขา และในปี 2563 เปิดเพิ่มอีก 600 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งหมดกว่า 4,500 สาขา ทั่วประเทศ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม จากปัจจุบันมีสาขาจำนวน 3,279 สาขา
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยในช่วงครึ่งปีหลัง MTC เตรียมบุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้และกำไรในอนาคต เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน เนื่องจากมีฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านราย รองรับแผนปล่อยกู้
นอกจากนี้ หลักเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal loan ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศใช้ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับ MTC เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมี Personal loan ทั้งสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อรถจักรยานยนต์ ซึ่งตามเกณฑ์ใหม่ กำหนดเพดานดอกเบี้ยไว้ที่ 28% โดยปัจจุบันบริษัทฯคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 23% ทำให้มีช่องว่างในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น