EURO ยืนยันเป้าหมายรายได้ปี 67 โตเกิน 15% ออลไทม์ไฮเหตุรับรู้รายได้สาขาภูเก็ต-เพิ่มแบรนด์-ตลาดลักชัวรี่คึกคัก
บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) มั่นใจเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% แตะระดับ 1,400ล้านบาท จากแผนขยายสาขา เพิ่มแบรนด์สินค้า ด้านบอสใหญ่ “เควิน กัมบีร์” แจงถึงผลงานไตรมาสแรกลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนเนื่องจากความล่าช้าการขนส่งทางเรือ แต่เป็นช่วงเวลาประมาณ 30 วันเท่านั้น คาดกลับมาปกติตั้งแต่ไตรมาส 2-4/67 อีกทั้ง มียอดขายเพิ่มจากสาขาภูเก็ตภายในครึ่งปีหลัง ส่วนศักยภาพตลาดลักชัวรี่โตแกร่ง เชื่อมั่นดันผลงานออลไทม์ไฮ
นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (EURO) ผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” เปิดเผยว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 15% จากปีก่อน หรือไม่น้อยกว่า1,400 ล้านบาท มาจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรมงานภายใน 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านและอาคาร และ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการประดับตกแต่งและอุปกรณ์ฟิตเนส และมาจากจากการขยายธุรกิจ อาทิ การเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ และขยายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เพิ่มแบรนด์ใหม่เข้าพอร์ต เช่น Poltrona Frau แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หนัง Top3 ของโลก , Frette ชุดเครื่องนอนที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดของโลกและเป็นแบรนด์เก่าแก่จากอิตาลี และ Haworth แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดในโลกเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ
อีกทั้ง บริษัทฯ วางกลยุทธ์มุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยการเจาะตลาดปัจจุบันและตลาดใหม่ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพิ่มสินค้าหลายประเภทจากเจ้าของสินค้าที่แตกต่างกันเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถขายสินค้าและบริการเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของลูกค้าได้อย่างครบวงจร (Total Living Solutions) และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของการตกแต่ง ทั้งบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ จำนวน 309.12 ล้านบาท ลดลง 17.37 ล้านบาท หรือ 5.32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายและการบริการ จำนวน 306.69 ล้านบาทส่งผลทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 41.43ล้านบาท ลดลง 19.36 ล้านบาท หรือ 31.84% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ เท่ากับ 13.40% ของรายได้รวม โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งกระทบเกิดจากวิกฤตการณ์ในทะเลแดง ซึ่งทำให้เส้นทางการขนส่งทางเรือจากยุโรปมายังเอเชียเกิดความล่าช้า ส่งผลให้การส่งมอบสินค้าแก่ลูกค้าเกิดความล่าช้าตามไปด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 จะลดลงเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณากำไรสุทธิเฉลี่ยรายไตรมาสของปี 2566 จะอยู่ที่ 40.63 ล้านบาท ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 อยู่ในระดับมากกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าว อีกทั้งบริษัทฯ พยายามรักษาสัดส่วนค่าใช้จ่ายในไตรมาส 1/2567 ให้อยู่ในระดับปกติ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้ แตะระดับ 1,400 ล้านบาทตามเป้าหมาย เนื่องจากช่วงประมาณการณ์ความล่าช้าเกิดขึ้นเพียงประมาณ 30 วัน ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารถกลับเข้าสู่โหมดปกติในไตรมาส 2-4/2567 ประกอบกับบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายโชว์รูม Euro Creations Flagship Gallery at Phuket เป็นแฟลกชิพโชว์รูมแห่งแรกในภูเก็ตในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าตามไลฟ์สไตล์ลักชูยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย