CWT-W6 ลงสนามเทรด 9 ก.ย. นี้มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดีเยี่ยมลั่นผลงานปี 65 จ่อทุบสถิติใหม่ตามแผน
CWT-W6 เตรียมเข้าเทรดวันที่ 9 ก.ย.นี้ บิ๊กบอส “วีระพล ไชยธีรัตต์” มั่นใจได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม จากแผนการขยายธุรกิจและโอกาสในการเติบโตในอนาคต ลั่นผลงานปี 65 ทุบสถิติสูงสุดใหม่ รายได้โตเกิน 20% ตามนัด ธุรกิจฟอกหนัง-โรงไฟฟ้า-SKC หนุน
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 6 (CWT-W6) จำนวน 120,000,000 หน่วยที่ออกเพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Right Offering) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) พร้อมเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 นี้
"ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ทำการรับจดทะเบียน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 6 (CWT-W6) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และพร้อมเทรดในวันศุกร์ที่ 9 กันยายน2565 โดย CWT-W6 มีอายุ 1 ปี 6 เดือน ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ CWT-W6 มีอัตราการใช้สิทธิคือจำนวน 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทได้ 1 หุ้น ที่ราคาการใช้สิทธิ 5 บาทต่อหุ้น"
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้เพียง 1 ครั้งและถือเป็นครั้งสุดท้าย ณวันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุครบ 1 ปี 6 เดือน นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่6 ซึ่งตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567
นายวีระพล กล่าวว่า การออก CWT-W6 ในครั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยในอนาคต เช่น กลุ่มธุรกิจพลังงานหรือกลุ่มธุรกิจที่ต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีและสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวขึ้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมองเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตในอนาคต จากแผนการขยายธุรกิจ
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2565 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงทยอยส่งมอบงานตามแผน โดยในส่วนของธุรกิจเบาะหนังมีออเดอร์อยู่ในมือแล้ว ขณะที่มีรายได้จากธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และอยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มเติมภายในเร็วๆนี้ ส่วนธุรกิจ SKC มีการส่งมอบงานตามกำหนดที่วางไว้ ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% สามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร และยังคงเดินตามแผนงานที่วางไว้