ซี.ไอ.กรุ๊ป ได้ฤกษ์ส่งบริษัทร่วมทุน อิมแพ็ค กรีน ยูทิลิตี้ โฮลดิ้ง “IGU” ประเดิมเซ็น MOU กับพันธมิตรเพื่อพัฒนาธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อการขนส่งและห่วงโซ่อุปทานความเย็นต่อยอดธุรกิจหลัก เล็งร่วมมือศึกษาเชิงลึกรอบด้านและทดลองตลาดในเฟสแรก ก่อนขยายการลงทุนเพิ่มเฟสถัดไป มั่นใจหากระบบ ecosystem เพื่อการขนส่งเต็มรูปแบบ สามารถวางแผนชัดเจนไร้ปัญหาสถานีชาร์จไม่เพียงพอเชื่อเป็นหนึ่งธุรกิจที่พร้อมสร้างโอกาสและรายได้ให้กับบริษัทแบบยั่งยืนตามเป้าหมาย

นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “CIG” ผู้ผลิตคอยล์อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนสำหรับระบบปรับอากาศและทำความเย็นให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินงานปรับโครงสร้างการทำงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน และสร้างโอกาสการเติบโตจากธุรกิจใหม่ บริษัทร่วมทุน อิมแพ็ค กรีน ยูทิลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ “IGU” ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) พัฒนาธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อการขนส่งและห่วงโซ่อุปทานความเย็น ร่วมพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่นำความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาช่วยสร้างระบบ ecosystem เพื่อการขนส่งแบบครบวงจร ได้แก่ บมจ. ซี.ไอ.กรุ๊ป ผลิตคอยล์และอุปกรณ์สำหรับการปรับอากาศ, บริษัท ซีไอจี บลูโซลูชั่นส์ จำกัด ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น, บริษัท เวอชู ดิ๊กนิตี้ คอร์ปอเรชันจำกัด (Virtue Dignity Corporation Co., Ltd.) ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการเงินระดมทุนและการลงทุน,  UCARS PTE. LTD บริษัทจัดทำแพลตฟอร์ม (platform) การซื้อขายรถบริหารดีลเลอร์รถ และสื่อที่เกี่ยวกับรถยนต์, GiTi Tire Private Limited บริษัทยางระดับโลก, บริษัท วีมูฟแพลตฟอร์ม จำกัด (WeMove) แพลตฟอร์มจองรถบรรทุกขนส่งสินค้าทั่วประเทศ, Freshline Plus Co., Ltd. ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าอาหารสด แห้ง แช่แข็งจากทั่วโลก และ TEDX Co., Ltd. ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการตลาดครบวงจร ตั้งแต่การสื่อสารไปจนถึง sale conversion และ IT solutions

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้เกิดจากความตั้งใจของ IGU ที่ต้องการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการและนโยบายทั่วโลกอย่างยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) ผสานไปกับธุรกิจของบริษัทในเครือที่มีศักยภาพด้านระบบปรับอากาศและทำความเย็น จึงต้องการพัฒนาระบบการขนส่งและขนส่งห้องเย็น อาทิ การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ การขนส่งทั่วไป รวมถึงรถกระบะขายสินค้าที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และเพื่อให้การดำเนินธุรกิจเกิดประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาดูแลอย่างเป็นระบบห่วงโซ่อุปทานความเย็นตามแผนที่วางไว้ เช่น IGU และ CIG พัฒนาและจัดหาโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มธุรกิจการขนส่งให้ทางกับ UCARS ในประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วน UCARS จะจัดหาสินเชื่อ (finance) สำหรับ EVs ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ เป็นต้น

ขณะที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันสำรวจและวิเคราะห์สภาพตลาด เพื่อส่งเสริมและทดลองการทำธุรกิจในecosystem ทั้งการร่วมกันเลือกรถที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละแบบภายในกลุ่มธุรกิจ การร่วมกันปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรถยนต์ปัจจุบัน และรถจำหน่ายสินค้าของทาง freshline ตลอดจนการร่วมกันพัฒนาโครงการนำร่องเพื่อการขยายธุรกิจในเครือข่าย โดยในเฟสแรกจะศึกษาเชิงลึกรอบด้าน และทดลองในธุรกิจที่เหมาะสม ก่อนวางแผนการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นในเฟสต่อไป

“บริษัทมองว่าการขนส่งยังจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะการส่งสินค้าแช่เย็นและแช่แข็ง ที่แม้จะมีการแข่งขันสูงจากมุมมองที่เห็นโอกาสตรงนี้เหมือนกัน แต่เชื่อว่ายังมีดีมานด์อีกมาก และทางเราเองพยายามผสานจุดแข็งของบริษัทในกลุ่มธุรกิจและพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสในด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น ระบบห้องเย็น แพลตฟอร์มการจัดหารถพลังงานไฟฟ้า การหาสินค้า การหาลูกค้า การหาพนักงาน การทำการตลาด ไปจนถึงการจัดหาสินเชื่อ ซึ่งทั้งหมดช่วยให้เกิด ecosystem อย่างสมบูรณ์แบบ และสามารถวางแผนการชาร์จพลังงานสำหรับรถยนต์ให้มีความพร้อมในให้บริการอย่างเป็นระบบอีกด้วย”นายอารีย์ กล่าว