CH กางแผนครึ่งปีหลังรุกขยายตลาดขนมเพื่อสุขภาพดันผลิตภัณฑ์ใหม่ เข้าร้านสะดวกซื้อชั้นนำ – Hypermarketเน้นทำเลคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่ม หนุนผลงานปีนี้โตแกร่ง
บมจ.เจริญอุตสาหกรรม หรือ CH เปิดแผนครึ่งปีหลัง รุกขยายฐานกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ ตามเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมเน้นกลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่ ส่งผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายร้านค้าแบบ KIOSK และVending Machine ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ (Snack) เข้าร้านสะดวกซื้อชั้นนำและ Hypermarket บนทำเล THE BEST DESTINATION FOR TOURIST ด้านซีอีโอ “ศักดา ศรีแสงนาม” แย้มแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังสดใส เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ คาดผลตอบรับการขยายตลาดดีเยี่ยม เตรียมออกบูธแสดงสินค้าและเข้าร่วมงานประกวดผลิตภัณฑ์อาหารในต่างประเทศ เดินหน้าเจรจาลูกค้าในสหรัฐอเมริกา บุกตลาดส่งออก สนับสนุนผลงานเติบโตยั่งยืน
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (CH) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทฯ วางกลยุทธ์รุกขยายฐานรายได้จากกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการเดินหน้าการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องประกอบกับมีการเปิดร้าน KIOSK ใน SIAM PREMIUM OUTLET และ CENTRAL VILLAGE สุวรรณภูมิ เมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ อยู่ระหว่างทดลองเครื่อง Vending Machine 2 แห่ง ใน ท่ามหาราช และ ICONSIAM ซึ่งเป็นโซนทำเลหลักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ อย่างเช่น Bangkok Tasty ขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ ประกอบด้วย1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด หรือ ผลไม้รวมอบแห้งเคลือบช็อคโกแลต อาทิ ส้ม มะม่วง กล้วย เป็นต้น คาดว่าจะสามารถนำเข้าขายในร้านสะดวกซื้อชั้นนำ และ/หรือ Hypermarket ต่างๆ ภายในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยเจาะจงในสาขาที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
"เราคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป อีกทั้งคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากแผนการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนการนำผลิตภัณฑ์ออกบูธในงานแสดงสินค้า และเข้าร่วมงานประกวดผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ พร้อมทั้งเดินสายพบปะลูกค้าในแถบสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และกระชับความสัมพันธ์ฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง” นายศักดากล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขาย496.43 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ประมาณ86.90% ของรายได้จากการขาย ทั้งนี้บริษัทฯ มีรายได้จากกลุ่มปลากระป๋องเพิ่มขึ้นจากสินค้าส่งออกไปแถบทวีปเอเชีย เนื่องจากบางประเทศมีนโยบายการผ่อนปรนข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรายได้จากกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่กำลังทำการตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานที่28.72 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 21.65 ล้านบาท