BPS เกาะกระแส Green Home เจาะลูกค้า B2Cเสริมพันธมิตรต่อยอดธุรกิจครบวงจร

BPS เกาะกระแส Green Home เจาะลูกค้า B2Cเสริมพันธมิตรต่อยอดธุรกิจครบวงจร

บมจ. บีพีเอส เทคโนโลยี หรือ BPS เสริมความแข็งแกร่ง จับมือพันธมิตร สร้างเครือข่ายธุรกิจ Green Home Solutions ครบวงจร ลุยขยายฐานลูกค้า B2C เกาะกระแส Green Home หวังสร้างรายได้ต่อเนื่อง คาดปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10%

นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  หรือ BPS ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร เปิดเผยว่า BPS คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%  โดยจะเน้นการขยายฐานกลุ่มลูกค้า B2C และเน้นการหาพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างเครือขายให้ธุรกิจอย่างครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มได้ 

BPS จะเน้นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางและเล็ก ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกบ้านได้โดยตรง เพื่อนำเสนอนวัตกรรม ตลอดจนสินค้าและบริการของ BPS ตามความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน เช่น ออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายไฟ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง รวมถึงการติดตั้งโรงรถ (Garage Roof) การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Smart Home เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านต่อไปในอนาคต 

นอกจากนี้ BPS ยังจับมือกับพันธมิตรในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างหรือผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจและการให้บริการ ให้มีความหลากหลายและครบวงจร เช่นบริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTIผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับระบบกรองน้ำที่มีนวัตกรรมและคุณภาพระดับสากล และล่าสุด BPS ได้สัญญาความร่วมมือกับบริษัท มาสโลหะกิจ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเชี่ยวชาญธุรกิจออกแบบและติดตั้งหลังคา เพื่อนำเสนอบริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไปพร้อมกับหลังคา โดยความร่วมมือเหล่านี้จะเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจและร่วมกันส่งเสริมการตลาด เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นบริการที่ตอบโจทย์และได้รับการตอบรับอย่างดีในอนาคต

“การหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และการขยายกลุ่มลูกค้า B2C จะมีส่วนสำคัญที่สร้างรายได้ต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต เนื่องจากเทรนด์ของบ้านยุคใหม่ Smart Home ยังมีโอกาสเติบโตจากความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ที่คำนึงถึงความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และตอบโจทย์ของผู้พักอาศัยในทุกๆด้าน” นายสุรพงษ์ กล่าว

สำหรับลูกค้าในกลุ่ม B2B คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้จากการขยายการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสำหรับลูกค้าอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และ โรงงาน รวมถึงองค์กรภาคเอกชน โดยตั้งเป้าติดตั้งและผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 10เมกะวัตต์ และการติดตั้งระบบโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร FFTx ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 10,000 ยูนิค ซึ่งจะทยายรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

ข่าวเกี่ยวข้อง