ผถห.WP ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดปี64 อัตรา 0.15 บ./หุ้นมั่นใจธุรกิจจัดจำหน่าย LPG เป็นดาวรุ่งหนุนรายได้ปีนี้โตเข้าเป้าไม่ต่ำกว่า 5%
ผู้ถือหุ้นบมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP)พร้อมใจยกมือโหวตรับมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เตรียมรับทรัพย์ วันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ฟากซีอีโอ “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ”ประเมินแนวโน้มธุรกิจของบริษัทปีนี้ยังสดใส ตามความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง ขณะที่เดินหน้ารุกขยายธุรกิจใหม่ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก พร้อมลุยเจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 5%
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือWP เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.15 บาท/หุ้น โดยได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2565
"บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ ปี ซึ่งเงินปันผลที่มอบให้กับผู้ถือหุ้นในรูปของเงินสดครั้งนี้ เกิดจากการที่บริษัทฯได้มุ่งมั่นและทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจทุกภาคส่วน ทำให้ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ และสร้างผลตอบแทนที่ดี”นางสาวชมกมลกล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตเลียมเหลว (LPG) ที่ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 765,000 ตัน แบ่งเป็นขายภายในประเทศ740,000 ตัน และส่งออก 25,000 ตัน จากปีที่ผ่านมียอดขายเท่ากับ 700,000 ตัน พร้อมกันนี้ยังได้ขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผ่านการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ภายในประเทศ ซึ่งตั้งเป้าภายใน 3 ปีครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้า ได้กว้างขวาง และครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงมีแผนขยายตลาดของการส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้ Trading LPG ไปยังประเทศเวียดนามเรียบร้อยแล้ว
ส่วนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 20 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสและช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ในการสร้างรายได้เพิ่ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งเพิ่มเติมให้กับการลงทุนที่มีในปัจจุบัน เพื่อผลักดันการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไปได้ในระยะยาว โดยมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 5% จากปี 2564 หรืออยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท